Sale!

The Drunken Tea

2,475.00 ฿

Episteme และ Find The Locker Room ชวนคุณเปิดประตูล็อกเกอร์ของ “บาร์ลับ” ใจกลางเมือง เข้าสู่โลกของชาและค็อกเทล พร้อมดื่มด่ำรสชาติประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสองวัตถุดิบทรงอิทธิพลนี้ผ่านกิจกรรม The Drunken Tea

เปิดประสบการณ์การดื่มชาและค็อกเทล เมื่อชาเป็นวัตถุดิบสำคัญและแรงบันดาลใจในการออกแบบและปรุงเครื่องดื่มอย่างค็อกเทล ซึ่งแต่ละแก้วสร้างสรรค์ด้วยชาระดับกูร์เมต์ที่คัดสรรมาแล้ว อย่างชาเอิร์ลเกรย์จาก Harrods ชาเขียวจาก Mariage Frères และชาอเมริกันสุดคลาสสิคผสมผสานเข้ากับเหล้าคลาสสิคอย่าง Remy Martin Cognac, Botanist Gin และ Cointreau Orange Liqueur พร้อม “บาร์สแน็ค” ที่ paring จับคู่รสสัมผัสเข้ากับค็อกเทลแต่ละแก้วโดยเฉพาะ เสริมประสบการณ์การดื่มในครั้งนี้ของคุณให้พิเศษยิ่งขึ้น

วัน-เวลา เร็วๆ นี้

พิเศษ! สำหรับผู้สมัคร Early Bird รับส่วนลดบัตรเข้างานราคาพิเศษ เหลือเพียง 2,475.- จาก 2,600.-

จองก่อน มีสิทธิ์เลือกที่นั่งก่อน!
จองไว ได้รับสิทธิ์เลือกที่นั่งที่ดีที่สุดก่อนใคร​ (เนื่องจากสถานที่จัดงานเป็นบาร์ บางที่นั่งอาจมีวิสัยทัศน์จำกัด)
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด*

In stock

Category:

Description

The Drunken Tea
Greeting 1 • Exploration 3 • Farewell 1

ภายในงานผู้ร่วมกิจกรรมจะได้รับชาแก้วแรกแทนคำต้อนรับ Greeting เคลียร์ทุกรสที่ค้างคาและวอร์มอัพลิ้น เปิดการรับรสอย่างเต็มที่

จากนั้นเราจะเตรียมความพร้อมทุกท่านราวกับทีมค้นหา (exploration unit) ที่บุกเบิกไปยังดินแดนใหม่ รับรสชาติที่คุณค้นพบและบันทึกข้อมูลทั้งหมดลงในความทรงจำ ด้วยค็อกเทล 3 แก้ว 3 สไตล์ที่เสิร์ฟพร้อมกับบาร์สแน็ค ของกินเล่นที่คัดสรรมาอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้น แต่ละแก้วยังมีเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจที่รอให้คุณได้เก็บเกี่ยวตลอดการเดินทาง โดยมีเชฟไปป์รับหน้าที่พาทุกคนย้อนเวลาไปเรียนรู้จุดเริ่มต้นของค็อกเทล ยุคสำคัญของค็อกเทลอย่างยุค Prohibition ที่เป็นต้นกำเนิดของบาร์ลับ (Speakeasy bar) และสัมผัสกับเกร็ดความรู้ด้านศิลปะวัฒนธรรมของชาที่เกี่ยวพันกับค็อกเทลอีกด้วย

แก้วที่ 1: Family Reunion

Lapsang Souchong infused Botanist Gin / Dried Jujube Syrup / Black Sesame Syrup / Egg White / Lemon

เครื่องดื่มค็อกเทลแก้วแรกด้วยรสชาติละมุนของน้ำเชื่อมพุทราจีนแห้งและน้ำเชื่อมงาดำ ที่ให้ความหอม กลมกล่อม สดชื่น และผสมผสานกับกลิ่นของชาดำ Lapsang Souchong ที่นำไป infused กับ Botanist Gin พร้อมรสชาติครีมมี่นุ่มนวลจากไข่ขาว ทานคู่กับมะพร้าวอบกรอบรสชีสและเบคอนให้ความหอมมัน ที่อวลอนชวนให้ดื่มแก้วต่อไป

แก้วที่ 2: Sense and Sensibility

Earl Grey infused Botanist Gin / Clarified Milk Punch / Mixed Berries

ต่อกันด้วยแก้วที่สอง ที่ให้รสสัมผัสและกลิ่นของชาเอิร์ลเกรย์ใส่นมแบบเต็มๆ ตัดด้วยความเปรี้ยวนิดๆ จากเบอร์รี่ให้ไม่เลี่ยนจนเกินไป ทานคู่กับพริกกรอบ เลม่อนเชื่อม (Lemon Candy) และ คุกกี้เนย Galette โดยกัดพริกกรอบก่อนดื่มคำแรก จากนั้นทานเลม่อนเชื่อมกับคุกกี้เนยสลับกันระหว่างดื่ม ให้รสสัมผัสที่เข้ากันอย่างบอกไม่ถูก!

แก้วที่ 3: Field of Dreams

Rémy Martin V.S.O.P./ American Iced Tea / Corn Milk / Lemon

แก้วนี้ให้รสชาติที่คล้ายกับชามะนาวสุดสดชื่น พร้อม hint กลิ่นเอกลักษณ์ของ Rémy Martin Cognac ที่หอมละมุนและทรงพลัง ผสมผสานกับรสชาติน้ำเชื่อมข้าวโพดที่เข้ากันอย่างกลมกล่อม หลังดื่มไปซักพัก ลองบีบเลม่อนฝานลงไป จะให้รสชาติที่สดชื่นมากขึ้น! ทานคู่กับ Tortilla ปรุงรสจัดจ้านด้วยพริก Jalapeño ที่สะท้อนถึงทางใต้ของอเมริกา และแรงงานชาวเม็กซิกันที่เข้ามาทำงานหลังการประกาศอิสรภาพ สอดคล้องกับการใช้ชาอเมริกันในการสรรค์สร้างเครื่องดื่มที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์แก้วนี้

ปิดท้ายค่ำคืนพิเศษ เราจะร่ำลากันด้วยเครื่องดื่มเช่นกัน เพื่อให้คุณจดจำประสบการณ์ความประทับใจภายในบาร์ลับแห่งนี้ เราจะลากันด้วย farewell shot “Le Bonheur” ที่ทาง Find The Locker Room ตั้งใจออกแบบให้คุณโดยเฉพาะ

Le Bonheur

ช็อตพิเศษที่ออกแบบมาให้คุณดื่มแบบยกหมดภายในครั้งเดียวเพื่อสัมผัสถึงรสและกลิ่นที่ซับซ้อนของวัตถุดิบได้อย่างเต็มเปี่ยม หลังดื่มแล้วจะได้รับรสแทนนินของชาในลำคอ พร้อมกลิ่นหอมหวานของชาเขียว Mariage Freres ชาเขียวระดับพรีเมียมจากฝรั่งเศส ที่นำไป Sous Vide กับน้ำลูกแพร์ที่หวานละมุน กลมกล่อม ผสมผสานกับรสชาติเปรี้ยวหวานปนขมนิดๆ จากเหล้าส้ม Cointreau ที่ออกแบบมาอย่างลงตัว ปิดท้ายค่ำคืนพร้อมความทรงจำแสนสุข